หลังจากได้รับการร้องเรียนหลายครั้งเกี่ยวกับเสียงดังเกินควรที่รบกวนความสงบของชุมชน ตำรวจเมืองพัทยาจึงได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเข้าตรวจสอบบาร์ SEE U ในซอย 6 เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 9 เมษายน พ.ต.อ. เอนก สาระทองอยู่ เป็นผู้นำปฏิบัติการซึ่งเริ่มต้นเมื่อเวลา 23.30 น. โดยมีหน่วยสายตรวจที่ 2 และทีมปฏิบัติการพิเศษร่วมเข้าจัดการปัญหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสาวจริยาพร อายุ 24 ปี ผู้จัดการบาร์ (สงวนนามสกุล) ในที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งข้อหาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนด้วยเสียงเพลงดัง หลังจากพบหลักฐานเป็นใบเสร็จการขายแอลกอฮอล์ โฆษกของตำรวจได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของชุมชน โดยกล่าวว่า “ไม่ว่าเรื่องจะเล็กหรือใหญ่ หากกระทบต่อชุมชน เราจะไม่ละเลย” เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปราบปรามการละเมิดข้อกำหนดเรื่องเสียงในพื้นที่ เนื่องจากนี่เป็นการบุกตรวจบาร์ครั้งที่สามในรอบสามวัน โดยก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนในลักษณะเดียวกันซึ่งนำไปสู่การเข้าตรวจสอบบาร์อีกแห่งในซอยบงกชเมื่อต้นสัปดาห์ การกวาดล้างครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่

เสียงมอเตอร์ไซค์แต่งดังลั่นพัทยา ปัญหายืดเยื้อที่ยังแก้ไม่ตก เสียงท่อไอเสียดังสนั่นจากมอเตอร์ไซค์แต่งเป็นปัญหาที่คุ้นเคยบนถนนพัทยามานาน แม้จะมีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องและตำรวจเข้ามากวาดล้างเป็นระยะๆ แต่เสียงรบกวนเหล่านี้ก็ยังคงสร้างความรำคาญให้ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เสียงไซเรนตอนกลางคืนก็เป็นปัญหาอีกเรื่องหลายคนบ่นว่า “ตอนกลางคืนเสียงรถกู้ภัยก็ไม่เงียบเลย! ถนนโล่งขนาดนั้น ลดเสียงหน่อยจะดีมาก บางคนก็เปิดไซเรนกันแบบไม่จำเป็น อีกอย่าง ดูเหมือนจะมีเหตุฉุกเฉินบ่อยเกินไปหน่อยไหม? พอเถอะ!” ชาวบ้านจากหลายพื้นที่ในพัทยาต่างแสดงความไม่พอใจ เช่น คนหนึ่งบอกว่า “ซอยสยามคันทรีคลับ รำคาญมาก” อีกคนเสริมว่า “หาดจอมเทียนก็เหมือนกัน!” ไม่ใช่แค่เสียงดัง แต่การขับขี่อันตรายก็เป็นปัญหามีคนเล่าว่า “มอเตอร์ไซค์บางคันขับบนทางเท้า โดยเฉพาะพวกส่งอาหาร เห็นแล้วเสียวแทนคนเดินถนนเลย” ถึงตำรวจจะกวาดล้างบ้าง แต่คนก็ยังสงสัยแม้จะเห็นตำรวจจับรถเสียงดังเป็นพักๆ แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามว่า “ทำไมไม่จัดการจริงจังเหมือนตอนจับนักท่องเที่ยวไม่ใส่หมวกกันน็อกบ้างล่ะ?” ท่อดังเกินกฎหมายกำหนด แต

หลังจากเกิดเสียงปืนระหว่างการทะเลาะวิวาท การร้องเรียนเรื่องเสียงดังที่บ้านเช่าในตัวเมืองภูเก็ตกลายเป็นเหตุรุนแรง ส่งผลให้เจ้าของบ้านและผู้เช่าได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม) เผยให้เห็นความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายที่มีมาก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม ตำรวจเมืองภูเก็ตเดินทางไปยังที่เกิดเหตุในซอยพัฒนาการ 2 เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตพบเจ้าของบ้านและผู้เช่าที่ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ผู้เช่า นายภาณุพงศ์ แซ่แต้ หรือที่รู้จักในชื่อ “แบงค์” ถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย ขณะที่เจ้าของบ้าน นายโสรส จิตเชี่ยว อายุ 41 ปี ได้รับบาดเจ็บที่เบ้าตาขวา หลังได้รับการปฐมพยาบาลฉุกเฉิน ทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพื่อรับการรักษาต่อ นายโสรสกล่าวว่า การทะเลาะเริ่มขึ้นเมื่อเขาและภรรยาเดินไปที่ห้องหมายเลข 5 เพื่อพูดคุยแก้ปัญหาเกี่ยวกับเสียงดังในเวลากลางคืน เขาระบุว่า นายภาณุพงศ์เคยถูกขอให้ออกจากบ้านเช่าหลายครั้งก่อนหน้านี้เนื่องจากพฤติกรรมที่คุกคาม References https://thethaiger.com

ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จะชดเชยให้กับผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงจากรันเวย์ที่สามและรันเวย์ใหม่ล่าสุดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นจำนวนเงิน 12,000 ล้านบาท หน่วยงานหลายแห่ง รวมถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร ได้หารือกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับประเด็นการชดเชยที่ผู้อยู่อาศัยร้องขอสำหรับเสียงดังจากเครื่องบินที่ใช้รันเวย์ใหม่ล่าสุดที่เปิดใช้งานแล้วของท่าอากาศยานหลักของประเทศ นายกิตติพล รวยฟูพันธ์ รองโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามกฎหมาย มีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชดเชย ผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากเสียงดังถูกจัดอยู่ในหลายประเภท ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับการชดเชยตามกฎหมาย และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือทางการเงินตามข้อกำหนดทางเทคนิค นายกิตติพลกล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดอัตราการชดเชยแล้ว ผู้อยู่อาศัยที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดจะได้รับเงินชดเชย สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารการถือครองที่ดิน จะได้รับความช่วยเหลือในการจัดทำเอกสารเพื่อให้มีสิท

ได้รับการร้องเรียนว่ากลุ่มบาร์เบียร์ ย่านบัวขาว พัทยาใต้ จ.ชลบุรี เปิดเกินเวลาที่กฏหมายกำหนด ส่งเสียงดังรบกวน โดยการใช้แตรลมเป็นเสียงในการฉลอง จนทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอพาร์ทเม้นท์ละแวกดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนเพราะนอนไม่หลับ บางครั้งสะดุ้งตื่นกลางดึก ซึ่งทนปัญหามานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดย น.ส.อร (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ได้เอาภาพกล้องวงจรปิดเสียงแตรหลักฐานให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเล่าปัญหาให้ฟังว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากบาร์เบียร์เปิดใหม่ ได้ประมาณ 1 เดือน มีการใช้แตรลมแทนการลั่นระฆัง คือสัญญาณเลี้ยงดื่มลูกค้าทั้งหมดที่อยู่ภายในร้าน เสียงแตรลมทำเอาผู้พักอาศัยบริเวณตึกรอบข้างต้องสะดุ้งตื่นกลางดึก อีกทั้ง เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ รอบข้างยังถูกลูกค้าคอมเพลน บางรายทนเสียงไม่ไหวต้องกับต้องขอย้ายออก โดยก่อนหน้านี้ เคยมีการเข้าไปพูดคุยกับทางบาร์เบียร์ดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งแจ้งตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ช่วยบรรเทาปัญหาการใช้เสียงแตรลม ในการเลี้ยงฉลองดื่มให้กับลูกค้าทั้งร้าน แต่ปรากฏว่าทางร้านยังนิ่งเฉย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ขณะที่ น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ชาวบ้าน

หญิงไทยเสนอส่วนลดพิเศษให้เจ้าของบ้านสำหรับคนหูหนวก ในประเทศไทย หญิงคนหนึ่งเบื่อเสียงเห่าของสุนัขข้างบ้าน จึงเสนอส่วนลดพิเศษให้คนหูหนวก เธอยังชี้แจงด้วยว่าเธอต้องการผู้ซื้อที่มีสุนัขตัวใหญ่ที่เห่าเสียงดังเท่านั้น หญิงคนดังกล่าวได้ติดป้ายโฆษณาบ้านของเธอและขอให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อบ้าน หญิงดังกล่าวได้แจ้งว่าต้องการย้ายถิ่นฐานเพื่อประโยชน์ของครอบครัว ก่อนหน้านี้ หญิงวัย 58 ปีรายนี้เคยร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเสียงดังดังกล่าว ตามรายงานของช่อง 8 News ของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาของเธอได้ เธออ้างว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของเธอต้องกินยานอนหลับเพียงเพื่อให้นอนหลับได้ เนื่องจากเสียงเห่าไม่หยุด เมื่อหมดหนทาง เธอบอกกับนักข่าวว่าเธอต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพและสุขภาพจิตของครอบครัวเป็นอันดับแรก เธอจึงตัดสินใจขายบ้านและย้ายถิ่นฐาน References https://mustsharenews.com