ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จะชดเชยให้กับผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงจากรันเวย์ที่สามและรันเวย์ใหม่ล่าสุดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นจำนวนเงิน 12,000 ล้านบาท
หน่วยงานหลายแห่ง รวมถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร ได้หารือกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับประเด็นการชดเชยที่ผู้อยู่อาศัยร้องขอสำหรับเสียงดังจากเครื่องบินที่ใช้รันเวย์ใหม่ล่าสุดที่เปิดใช้งานแล้วของท่าอากาศยานหลักของประเทศ
นายกิตติพล รวยฟูพันธ์ รองโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามกฎหมาย มีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชดเชย
ผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากเสียงดังถูกจัดอยู่ในหลายประเภท ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับการชดเชยตามกฎหมาย และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือทางการเงินตามข้อกำหนดทางเทคนิค
นายกิตติพลกล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดอัตราการชดเชยแล้ว ผู้อยู่อาศัยที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดจะได้รับเงินชดเชย
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารการถือครองที่ดิน จะได้รับความช่วยเหลือในการจัดทำเอกสารเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการชดเชย
นายกิตติพลกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่กรมควบคุมมลพิษได้ทำการประเมินและยืนยันว่าผู้อยู่อาศัยใกล้กับรันเวย์ที่สามได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงจริง ผู้อยู่อาศัยที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็อาจมีสิทธิ์ได้รับการชดเชย
นายสุรจิต พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้อยู่อาศัยได้ร้องเรียนต่อกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับปัญหาเสียงดัง
หลังจากการยื่นเรื่องร้องเรียน กรุงเทพมหานครได้ขอข้อมูลอัปเดตจากกระทรวงคมนาคมและ ทอท. เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา
กรุงเทพมหานครทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการให้ข้อมูลแก่ผู้อยู่อาศัยที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับการชดเชยเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการ
แม้ว่าการพิจารณาคำร้องจะต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แต่นายสุรจิตกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งกระบวนการพิจารณาให้เร็วขึ้น
การจ่ายเงินชดเชยรอบแรกน่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงต้นปีหน้า ตามคำกล่าวของประธานสภากรุงเทพมหานคร
รันเวย์ที่สามซึ่งมีความยาว 4 กิโลเมตรและกว้าง 60 เมตร ถูกสร้างขึ้นขนานกับรันเวย์แรกทางด้านตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะใช้เป็นหลักสำหรับเครื่องบินที่ลงจอด และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเครื่องบินได้ถึง 94 ลำต่อชั่วโมง จากเดิม 68 ลำต่อชั่วโมง
References